สรุปบทที่ 5
เราจะแบ่งการจัดแฟ้มข้อมูลออกเป็น 2 แบบคือ การจัดแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลำดับ เป็นวิธีการจัดเก็บและรวบรวมระเบียนของข้อมูลตามลำดับก่อนหลัง โดยจัดเรียงจากน้อยไปหามาก หรือจากมากไปหาน้อย
การจัดแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม เป็นวิธีการจัดรวบรวมระเบียบข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลโดยตรง และไม่ต้องผ่านระเบียบอื่นตามลำดับก่อนหลัง
ฐานข้อมูล หมายถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลเข้ไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบและมีแบบแผน ณ ที่ใดที่หนึ่งในองค์การ เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถนำข้อมูลมาประมวลผลและปรุยุกต์ใช้งานตามที่ต้องการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
ระบบจัดการฐานข้อมูล หมายถึงชุดคำสั่งซึ่งทำหน้าที่สร้าง ควบคุม และดูแลฐานข้อมูล เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถนำข้อมูลนั้นมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ DBMS จะทำหน้าที่เสมือนตัวกลางระหว่างชุดคำสั่ง สำหรับการใช้งานกับหน่วยเก็บข้อมูล DBMS จะประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3ส่วนคือ ภาษาสำหรับนิยามข้อมูล ภาษาสำหรับการใช้ข้อมูลและพจนานุกรมข้อมูล
ระบบฐานข้อมูลแบบกระจายข้อมูล หมายถึงระบบฐานข้อมูลที่เก็บข้อมูลไว้ในที่ต่างๆมากกว่า 1 แห่ง โดยข้อมูลส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง ขณะที่ข้อมูลส่วนที่เหลืออาจจะถูกเก็บรวมไว้ในอีกที่หนึ่งหรือถูกแยกเก็บไว้ตามที่ต่างๆ โดยที่ข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกเรียกมาประมวลผล
แบบฝึกหัด
1. เราสามารถจำแนกการจัดการแฟ้มข้อมูลออกเป็นกี่แบบ อะไรบ้าง
ตอบ เราสามารถจำแนกการจัดการแฟ้มข้อมูลออกเป็น 2 แบบดังต่อไปนี้
1. การจัดแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลำดับ (Sequential File Organization) เป็นวิธีการจัดเก็บและรวบรวมระเบียบ
2. การจัดแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม (Random File Organization) เป็นวิธีการจัดรวบรวมระเบียบข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลโดยตรง และไม่ต้องผ่านระเบียบอื่นตามลำดับก่อนหลัง
2. จงอธิบายความหมาย ตลอดจนข้อดีและข้อจำกัดของการจัดการแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม
ตอบ การจัดการแฟ้มข้อมูลแบบสุ่ม (Random File Organization) เป็นวิธีการจัดรวบรวมระเบียบข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลโดยตรง และไม่ต้องผ่านระเบียบอื่นตามลำดับก่อนหลัง
การจัดแฟ้มข้อมูลแบบสุ่มมีข้อดีดังนี้
1. การเข้าถึงข้อมูลสะดวกและรวดเร็ว
2. สะดวกในการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัย
3. มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับงานที่ต้องการประมวลผลแบบโต้ตอบ
การจัดการแฟ้มข้อมูลแบบสุ่มจะมีข้อจำกัดดังนี้
1. ข้อมูลมีโอกาสผิดพลาดและสูญหาย เนื่องจากการดำเนินงานมีความยืดหยุ่น
2. การเปลี่ยนแปลจำนวนระเบียบจะทำได้ลำบากกว่าวิธีเรียงลำดับ
3. มีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูง
3. ฐานข้อมูลคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
ตอบ ฐานข้อมูล (Database) หมายถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันอย่างมีแบบแผน ณ ที่ใดที่หนึ่งในองค์การ เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถนำข้อมูลมาประมวลผล และประยุกต์ใช้งานตามที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.
เราสามารถจำแนกแบบจำลองโครงสร้างข้อมูลเชิงตรรกะออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ โครงสร้างข้อมูลเชิงตรรกะออกเป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. แบบจำลองการจัดข้อมูลเชิงลำดับขั้น (Hierarchical Data Model)
2. แบบจำลองการจัดการข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Data Model)
3. แบบจำลองการจัดข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Data Model)
5.
จงเปรียบเทียบประโยชน์ในการใช้งานของแบบจำลองโครงสร้างข้อมูลแต่ละประเภท
ตอบ ตารางเปรียบเทียบการใช้งานของแบบจำลองการจัดการข้อมูล
ชนิดของแบบจำลอง
|
ประสิทธิภาพการทำงาน
|
ความยืดหยุ่น
|
ความสะดวกต่อการใช้งาน
|
เชิงลำดับขั้น
|
สูง
|
ต่ำ
|
ต่ำ
|
เครือข่าย
|
ค่อนข้างสูง
|
ค่อนข้างต่ำ
|
ปานกลาง
|
เชิงสัมพันธ์
|
ต่ำ (กำลังพัฒนา)
|
สูงหรือต่ำ
|
สูง
|
6.
ระบบจัดการฐานข้อมูลคืออะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง
ตอบ ระบบการจัดการฐานข้อมูล (Database Management System; DBMS) หมายถึงชุดคำสั่งซึ่งทำหน้าที่สร้าง ควบคุม และดูแลระบบฐานข้อมูล เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูล คัดเลือก ข้อมูล และสามารถนำข้อมูลนั้นมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7.
จงอธิบายความหมายและประโยชน์ของพจนานุกรมข้อมูล
ตอบ พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary) เป็นเครื่องมือที่จัดเรียบเรียงความหมายและอธิบายลักษณะที่สำคัญของข้อมูลในฐานข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นระบบและระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นคว้าและนำไปใช้อ้างอิงในอนาคต เนื่องจากอาจมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูล เปลี่ยนแปลงผู้บริหารฐานข้อมูล หรือเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต
8. นักบริหารฐานข้อมูลมีหน้าที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ หน้าที่สำคัญของนักบริหารฐานข้อมูลมีดังนี้
1. ประสานงานกับผู้จัดการแฟ้มข้อมูล (File Manager) ในการจัดเก็บ เรียกใช้ และแก้ไขข้อมูล
2.
ควบคุมความสมบูรณ์แน่นอนของข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับการใช้งานตลอดเวลา
3.
ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลมิให้ถูกจารกรรม ก่อการร้าย สูญหาย หรือถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ
4. ดูแลรักษาข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ตลอดจนสร้างระบบข้อมูลสำรองขึ้น
5.
ควบคุมความต่อเนื่องและลำดับในการทำงานที่เหมาะสม
9. เหตุใดบางองค์การจึงต้องมีหัวหน้างานด้านสารสนเทศ (CIO) และ CIO มีหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างไร
ตอบ รองประธานบริษัท
ผู้อำนวยการ หรือหัวหน้างานด้านสารสนเทศ ตามแต่การแบ่งงานขององค์การ
ขณะที่บางองค์การได้แยกหน่วยงานทางด้านสารสนเทศออกเป็นอิสระจากองค์การเดิม
10. จงอธิบายแนวโน้มของเทคโนโลยีฐานข้อมูลในอนาคต
ตอบ ต้องมีความถูกต้อง
รวดเร็ว และปลอดภัย ส่งผลให้องค์การไม่จำเป็นต้องทำการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ศูนย์กลาง